การนำ Robotic Process Automation (RPA) เข้ามาใช้ในองค์กรเพื่อทำงานส่วนที่ต้องการความถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว แต่มีงานในปริมาณมาก ต้องทำงานเดิมซ้ำ ๆ อยู่ตลอดเวลา การนำระบบซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยให้มีการทำงานที่ง่ายและเป็นระบบมากขึ้น ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านมาดูมุมมองเชิงลึกว่าการนำ RPA เข้ามาใช้ในองค์กรมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
โดยแก่นแท้แล้ว RPA เป็นการใช้ซอฟต์แวร์โรบอตหรือ "บอท" เพื่อมาดำเนินงานที่ต้องทำเดิม ๆ ซ้ำ ๆ อย่างอัตโนมัติ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเข้ารหัสที่ซับซ้อนหรือต้องเขียน Code เอง แต่จะใช้ระบบที่มีการเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว และป้อนคำสั่งที่ต้องการให้บอททำงานให้เท่านั้น ซอฟต์แวร์ที่ผลิตมาจะเลียนแบบการทำงานของมนุษย์ และช่วยทำงานทดแทนมนุษย์ได้อย่างมีศักยภาพ
การนำ RPA มาใช้นั้นสร้างประโยชน์มากมายแก่องค์กรที่ต้องการปรับปรุงการดำเนินงาน ข้อดีหลักประการหนึ่งคือประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น ด้วยการทำงานซ้ำ ๆ โดยอัตโนมัติของ RPA โดยไม่จำเป็นต้องพักผ่อน สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงแม้เวลาเลิกงาน ปิดคอมพิวเตอร์แล้วก็ตาม ซึ่งจะช่วยให้องค์กรทำงานได้รวดเร็ว งานเสร็จเร็วขึ้น มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพที่ต่อเนื่องและสม่ำเสมอโดยไม่จำเป็นต้องหยุดพักหรือลาพักร้อน อีกทั้งยังประหยัดต้นทุนแรงงาน และลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานของมนุษย์
ความผิดพลาดของการทำงานที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากความเหนื่อยล้าหรือการควบคุมดูแลในกระบวนการแบบแมนนวลโดยมนุษย์ แก้ไขได้ด้วย RPA ซึ่งจะทำให้มีความถูกต้องแม่นยำที่มากขึ้น เนื่องจากการทำงานตามคำสั่งที่ถูกป้อนโดยผู้ที่รับผิดชอบงานเท่านั้น
การนำระบบ RPA เข้ามาใช้ในองค์กรไม่ได้นำเข้ามาเพื่อแทนที่มนุษย์ แต่เป็นเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้เพิ่มขึ้น เป็นการร่วมมือกันทำงานระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์อัตโนมัติ RPA ช่วยให้พนักงานมุ่งเน้นการทำงานได้อย่างสร้างสรรค์ และมีเวลาในการทำงานอื่น ๆ มากยิ่งขึ้น
โดยสรุป Robotic Process Automation หรือ RPA เปรียบเหมือนพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงที่พลิกโฉมการดำเนินธุรกิจขององค์กรไปโดยสิ้นเชิง หากได้ทำความเข้าใจพื้นฐานการทำงานของ RPA ตระหนักถึงประโยชน์มีต่อการทำงานขององค์กรและความสามารถที่จะพาองค์กรก้าวต่อไปข้างหน้าในอนาคต ทั้งด้านประสิทธิภาพการทำงาน ลดความผิดพลาด มีความปลอดภัย และลดต้นทุนของการทำงานลง