การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ...แต่ถึงแม้จะดูแลตัวเองดีแค่ไหน คนเราก็มีโอกาสเจ็บป่วยกันได้ ดังนั้นนอกจากการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยแล้ว การถือกรมธรรม์ประกันสุขภาพสักฉบับก็ช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดีเช่นเดียวกัน สำหรับประกันสุขภาพปัจจุบันนี้คนทั่วไปนิยมทำแบบเหมาจ่ายมากกว่า เพราะมองว่าให้ความคุ้มครองครอบคลุมกว่า คุ้มค่ามากกว่า ซึ่งเป็นแบบนั้นจริงไหม มาดูกัน
ประกันสุขภาพแบบแยกจ่าย
ประกันสุขภาพในลักษณะนี้ พบได้มากในช่วงก่อนหน้านี้ โดยการคุ้มครองจะมีลักษณะแยกรายการจ่ายและจำกัดวงเงิน การเบิกจะเบิกได้เฉพาะรายการที่กำหนดเท่านั้น ถ้ามีค่าใช้จ่ายเกินที่กำหนดจะต้องจ่ายเอง ทั้งนี้ประกันสุขภาพแบบนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเช่นเดียวกัน
- ข้อดี ไม่กำหนดวงเงินสูงสุดต่อปี(กำหนดแค่ต่อครั้ง) อธิบายง่ายๆคือหากป่วยหลายครั้งใน 1 ปี แต่ละครั้งห่างกันเกิน 90 วัน จะสามารถเบิกเคลมค่ารักษาพยาบาลได้ใหม่เรื่อยๆ รวมทั้งยังมีค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่า จึงเหมาะสำหรับคนอยากทำประกันแต่มีงบน้อยนั่นเอง
- ข้อเสีย ค่ารักษาไม่ครอบคลุม เพราะวงเงินคุ้มครองแต่ละรายการมีจำกัด
ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย
ประกันสุขภาพประเภทนี้ จะกำหนดวงเงินสำหรับเหมาจ่ายเอาไว้ ซึ่งเป็นจำนวนเงินสูงสุดที่จะเบิกได้ในรอบ 1 ปี และส่วนใหญ่จะเบิกจ่ายได้ตามจริงแถมยังเป็นวงเงินที่สูง จึงครอบคลุมค่ารักพยาบาลมากกว่า ถึงแม้ค่าใช้จ่ายในบางรายการอย่างเช่น ค่าห้องพัก จะยังแยกรายการเหมือนเดิมก็ตาม สำหรับข้อดี ข้อเสียของประกันเหมาจ่าย มีดังนี้
- ข้อดี วงเงินคุ้มครองสูง ครอบคลุมมากกว่า มีการคุ้มครองหลายรายการ
- ข้อเสีย เบี้ยประกันแพงมาก ยิ่งผู้เอาประกันมีอายุมาก เบี้ยยิ่งแพงขึ้นไปอีก
จะเห็นได้ว่าประกันสุขภาพทั้ง 2 แบบต่างก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ซึ่งถามว่าแบบไหนดีกว่ากันคงตอบไม่ได้ เพราะว่าการทำประกันต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่าง ดังนั้นผู้ทำประกันต้องสำรวจตัวเองก่อนว่าต้องการประกันแบบใด มีความพร้อมในการจ่ายเบี้ยมากน้อยแค่ไหนรวมถึงมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดีหรือไม่ ถ้ามีคำตอบเหล่านี้ก็จะช่วยเลือกทำประกันได้ตรงกับความต้องการมากยิ่งขึ้น
หากใครที่กำลังมองหาประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายที่ให้ความคุ้มครองที่ครบครัน เราขอแนะนำ ฟินชัวรันส์ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ที่ให้ความคุ้มครองครบ จะอุบัติเหตุเล็กใหญ่ โรคร้ายต่างๆ โรคฮิตทั่วไป มะเร็งทุกระยะ ก็พร้อมดูแลด้วยค่ารักษาแบบเหมาจ่ายสูงสุดถึง 10 ล้านบาทต่อปีด้วย ค่าห้องสูงสุด 9,000 บาทต่อวัน พร้อม OPD สูงสุด 50,000 บาทต่อปี ไม่ต้องซื้อแยก ใบเดียวครบพร้อมโรงพยาบาลและสถานพยาบาลในเครือข่ายมากกว่า 364 แห่งทั่วประเทศแบบไม่ต้องสำรองจ่าย สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.kwilife.com/